มหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจวลงนามบันทึกความร่วมมือกัมหาวิทยาลัยขอนแก่น
เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน คณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจว (Wenzhou Medical University: WMU) จากประเทศจีน ได้เดินทางเยือนมหาวิทยาลัยขอนแก่น (Khon Kaen University: KKU) ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาทางการแพทย์ระหว่างสองประเทศ และสนับสนุนการดำเนินการของโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” พร้อมทั้งร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อความร่วมมือทางวิชาการ โดยทั้งสองสถาบันจะร่วมกันดำเนินความร่วมมือในหลากหลายด้าน อาทิ การแลกเปลี่ยนคณาจารย์และนักศึกษา การดำเนินการด้านการวิจัยร่วมกัน การพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ การแบ่งปันทรัพยากร และการจัดกิจกรรมวิชาการ เพื่อขยายความร่วมมือทางการแพทย์ไทย-จีนให้ครอบคลุมและรอบด้านมากยิ่งขึ้น ในพิธีลงนามของทั้งสองสถาบันดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ หยาง หนิง รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมและกล่าวแสดงความยินดี โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ต่อการส่งเสริม “เส้นทางสายไหมด้านสุขภาพ” และการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน – ไทย
ผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายไทย-จีนได้ลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ
ภายใต้การเป็นสักขีพยานของสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ขอนแก่น
ณ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจว ได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดการแลกเปลี่ยนทางวิชาการรอบด้าน ซึ่งครอบคลุมหัวข้อด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการดำเนินการวินิจฉัยและรักษาทางคลินิก ความร่วมมือด้านนวัตกรรมการให้บริการทางการแพทย์ ความก้าวหน้าล่าสุดของการรักษาหลอดเลือดหัวใจ การพัฒนาระบบการแพทย์ด้านสายตาและทัศนมาตรศาสตร์ ตลอดจนการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสาขาทันตแพทยศาสตร์
ฯพณฯ หยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น กล่าวปราศรัย
หลังจากเสร็จสิ้นการลงนามบันทึกความเข้าใจ คณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจวได้เดินทางเยือนสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น โดย ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวชื่นชมความพยายามและบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจวในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ระหว่างจีน-ไทย พร้อมระบุว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีพื้นที่และจำนวนประชากรคิดเป็นหนึ่งในสามของทั้งประเทศ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะสถาบันการแพทย์หลักของภูมิภาค ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของภาคอีสาน แต่ยังสามารถขยายการให้บริการไปยังผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นโครงการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะช่วยเสริมพลังใหม่ให้กับการพัฒนาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยกระดับมาตรฐานการแพทย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเป็นรูปธรรม และมีส่วนสนับสนุนการสร้างสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน – ไทย คณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจวได้แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของสถานกงสุลใหญ่ฯ พร้อมเน้นย้ำว่าจะเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือเชิงปฏิบัติทางการแพทย์รอบด้านอย่างต่อเนื่อง
ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น
พบหารือกับคณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เวินโจว
มหาวิทยาลัยขอนแก่นถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาทางการแพทย์และการวิจัยของภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในฐานะเสาหลักของการให้บริการสาธารณสุขของไทย ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นมาตรการสำคัญที่สะท้อนการเสริมสร้างจุดแข็งซึ่งกันและกันของทั้งสองสถาบัน พร้อมมุ่งยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์ของภูมิภาค มหาวิทยาลัยการแพทย์เหวินโจวได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือทางการแพทย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้การแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและการแพทย์เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีน-ไทย สะท้อนบทบาทของจีนในการร่วมสร้างประชาคมสุขภาพเพื่อมนุษยชาติ ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการศึกษาแพทย์ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทางคลินิก เพื่อสร้างพลังใหม่ให้แก่ ‘เส้นทางสายไหมด้านสุขภาพ’ พร้อมร่วมกันรังสรรค์บทใหม่ในความร่วมมือด้านการแพทย์จีน-ไทย
ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG