“รถไฟความเร็วสูง เครื่องบิน” —— ระบาย “ลิ้นจี่” กว่างซี กระจาย “ลิ้นจี่” ทั่วจีน
เวลาที่โพสต์:18:15, 31-07-2025
แหล่งข่าว:thaibizchina.com

นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ เขียน
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC)
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง


เข้าสู่ “หน้าลิ้นจี่” ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง  เท่าที่มีการบันทึกพบว่า เขตฯ กว่างซีจ้วงมีการปลูกลิ้นจี่ตั้งแต่เมื่อ 2,100 ปีก่อน โดยทั่วไป ผลผลิตลิ้นจี่ในกว่างซีจะเริ่มออกสู่ตลาดราว ๆ ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม (ช้ากว่าหน้าลิ้นจี่ไทยที่ออกสู่ตลาดช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายนของทุกปี) โดยปี 2568 เป็นปีที่ลิ้นจี่กว่างซีติดผลดก ได้ผลผลิตสูง

“ลิ้นจี่” เป็นหนี่งในผลไม้เมืองร้อนที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน แหล่งปลูกหลักอยู่ในพื้นที่จีนตอนใต้ โดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้งและเขตฯ กว่างซีจ้วง มีผลผลิตรวมกันมากกว่าร้อยละ 85 ของทั้งประเทศจีน ส่วนที่เหลือปลูกในมณฑลไห่หนาน (เกาะไหหลำ) มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลยูนนาน และมณฑลเสฉวน


ปี 2568 ประเทศจีนมีพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ราว 7.52 ล้านหมู่จีน หรือราว 3.13 ล้านไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิต 3.45 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว โดย “เขตฯ กว่างซีจ้วง” มีพื้นที่ปลูกเกือบ 1/3 ของทั้งประเทศ (ราวร้อยละ 31.6) พื้นที่ปลูกราว 2.37 ล้านหมู่จีน หรือราว 989,624 ไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตราว 1.145 ล้านตัน โดยเขตฯ กว่างซีจ้วง เป็นแหล่งผลิตลิ้นจี่เบอร์ 2 ของจีน รองจากมณฑลกวางตุ้ง

แหล่งปลูกลิ้นจี่ที่มีชื่อเสียงของกว่างซีอยู่ที่ “อำเภอหลิงซาน” (Lingshan County/灵山县) เมืองชินโจว มีพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ (ราว 1.75 แสนไร่) สายพันธุ์ลิ้นจี่ (48 สายพันธุ์) และปริมาณผลผลิตลิ้นจี่ (2.3 แสนตัน) เบอร์ 1 ของกว่างซีมีต้นลิ้นจี่อายุมากกว่าร้อยปีมากกว่า 30,000 ต้น (ในจำนวนนี้ เป็นต้นลิ้นจี่อายุ 800 ปีรวมอยู่ด้วยกว่า 1,500 ต้น) จนได้รับการขนานนามเป็น “บ้านเกิดของลิ้นจี่จีน”

บทความฉบับนี้ บีไอซี จะชวนผู้อ่านมาเรียนรู้ประสบการณ์การบริหารจัดการผลผลิตลิ้นจี่ของอำเภอหลิงซานในการใช้ประยุกต์ใช้ “เทคโนโลยีดิจิทัล” ในกระบวนการผลิต (ในสวน) ไปจนถึงการจัดจำหน่าย(ระบาย)ลิ้นจี่ ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าสนใจสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยในการส่งเสริมและยกระดับผลผลิตของผลไม้ไทย และการแสวงหาช่องทางการกระจายสินค้าผลไม้ไทยในจีน

ด้านการผลิต อำเภอหลิงซานได้ส่งเสริมให้สวนผลไม้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทุ่นแรงและใช้ประมวลผลข้อมูล (Data) ในการบริหารจัดการสวนเกษตรให้ก้าวสู่ “การเกษตรอัจฉริยะ” (Smart Agriculture) รวมถึงการใช้เทคนิคการเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช การเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกรรายย่อย

การพัฒนาเทคนิคการเกษตรในสวนลิ้นจี่ของกว่างซีเพื่อให้ได้ลิ้นจี่ที่สุกช้ากว่าฤดูกาลปกติของมณฑลกวางตุ้ง มณฑลไห่หนาน และมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งมีลักษณะเกื้อหนุนและเติมเต็มตลาดลิ้นจี่ในจีน

การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เทคนิค “แสงไฟ” (ค่าความเข้มของแสง ≥10 Lux) ในการรบกวนการแพร่พันธุ์ (วางไข่) ของแมลงศัตรูพืชอย่างหนอนเจาะขั้วผลลิ้นจี่ (Conopomorpha sinensis Bradley) รวมกับการใช้ “แสงกระพริบ” เพื่อล่อแมลงศัตรูพืชชนิดอื่นที่เข้ามาจากการใช้แสงไฟข้างต้น โดยติดตั้งตาข่ายไฟฟ้าเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชเหล่านี้ ซึ่งเทคนิคข้างต้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าการใช้ยาปราบศัตรูพืช

การส่งเสริมการใช้ UAV (Unmanned Aerial Vehicle) หรือโดรนสำรวจเพื่อการเกษตร (แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของจีนอย่าง DJI) มาช่วยในการเก็บภาพถ่ายทางอากาศเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นลิ้นจี่ การเฝ้าระวังและตรวจจับการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชได้อย่างตรงจุดแม่นยำ รวมทั้งยังใช้โดรนทุ่นแรงในการขนย้ายผลผลิตลิ้นจี่ ปัจจัยการผลิต และเศษวัสดุทางการเกษตรจากพื้นที่สูงหรือเข้าถึงยาก (เหมาะสำหรับสวนผลไม้ทางภาคใต้ของประเทศไทยอย่างมาก)

การพัฒนาระบบการจัดการสวนเกษตรด้วยเทคโนโลยีดิจทัลแบบครบวงจร โดยการผสมผสานเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things – IoT) ในการเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ ร่วมกับอัลกอลิธึมคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Vision AI Algorithm) ในการวิเคราะห์การเจริญเติบโตของผลลิ้นจี่และส่งต่อข้อมูลเพื่อสั่งการระบบให้น้ำให้ปุ๋ยอัจฉริยะ รวมถึงการวินิจฉัยโรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยได้อย่างแม่นยำ (ช่วยลดปริมาณการใช้ยาปราบแมลงศัตรูพืชลงได้ร้อยละ 15) และเทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองวัตถุเสมือน (Digital Twin) โดยจำลองลักษณะทางกายภาพของสวนได้อย่างแม่นยำผ่านการสร้างแบบจำลองสามมิติ และเชื่อมโยงข้อมูลสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์จากสถานีอุตุนิยมวิทยาและเซนเซอร์ในดิน

การพัฒนาแพลตฟอร์ม “Guiniao Agricultural Service” (桂鸟农服平台)  เป็นระบบตรวจสอบย้อนกลับด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain-based traceability) โดยสร้างคลังข้อมูลการเกษตรแบบครบวงจรตั้งแต่การออกดอกจนถึงการเก็บเกี่ยวในแต่ละสวน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในห่วงโซ่การเกษตร (ปัจจุบัน แพลตฟอร์มได้ให้บริการเกษตรกรมากกว่า 1,000 ราย)

ด้านโลจิสติกส์และการจัดจำหน่าย นอกจากการจัดกิจกรรมออฟไลน์ในลักษณะ “เทศกาลลิ้นจี่” เป็นประจำทุกปี เพื่อประชาสัมพันธ์ลิ้นจี่ให้มีชื่อเสียงติดตลาดอย่างต่อเนื่อง และเป็นเวทีจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อจากต่างถิ่นแล้ว หลายปีมานี้ เขตฯ กว่างซีจ้วงเร่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปลิ้นจี่ โลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นในชนบท และการทำตลาดออนไลน์ (แหล่งผลิตลิ้นจี่นิยมทำตลาดออนไลน์ผ่านการไลฟ์สด หรือ Live streaming)

“ลิ้นจี่” เป็นผลไม้ที่อ่อนไหวกับเวลาและไม่สามารถบ่มสุดได้ (Non–climacteric fruit) ยิ่งสดมากรสชาติที่แท้จริงยิ่งเด่นชัด รสชาติดีที่สุดของลิ้นจี่มีอายุสั้นเพียง 3 – 5 วัน เมื่อเวลาผ่านไปความสดและรสชาติที่เคยมีจะค่อย ๆ จืดจางและเน่าเสีย โดย “ระยะเวลาในการขนส่ง” นี่เอง!!! ที่เป็นตัวพรากความสดใหม่ของลิ้นจี่


อำเภอหลิงซานมีบริษัทคลังสินค้าความเย็นขนาดใหญ่ที่มีความจุมากกว่า 100 ตัน จำนวน 13 แห่ง มีจุดบริการอีคอมเมิร์ซระดับหมู่บ้าน 508 แห่ง มีผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมากกว่า 600 ราย และมีความร่วมมือกับธุรกิจส่งด่วนชั้นนำ เช่น SF (顺丰) และ JD  (京东) เพื่อรับประกันความสดใหม่ของลิ้นจี่ถึงมือผู้รับในหัวเมืองใหญ่ได้ภายในวันถัดไป และได้รับการสนับสนุนจากบริษัท China Railway Express Co.,Ltd. (中铁快运股份有限公司) และบริษัท China Railway Nanning Group Co.,Ltd. (中国铁路南宁局集团有限公司) ในการขนส่งกระจายสินค้าผ่านโครงข่ายรถไฟและรถไฟความเร็วสูงทั่วจีน

บริษัท SF Airlines (顺丰航空) นำเครื่องบินขนส่งสินค้าลำที่ 3 เข้าประจำการที่กว่างซี (สนามบินหนานหนิง) เพื่อใช้สำหรับการลำเลียงขนส่งลิ้นจี่สดไปยังหัวเมืองห่างไกลทั่วประเทศจีน นับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นมา ปริมาณการขนส่งลิ้นจี่สดจากสนามบินหนานหนิงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำสถิติรายวันสูงสุดที่ 320 ตัน “ปัจจุบัน มีเครื่องบินขนส่งลิ้นจี่สด จำนวน 6 ลำ” จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่บริษัท Guangxi Civil Aviation Development Co.,Ltd. (广西民航产业发展有限公司)

นิคมอุตสาหกรรมสือหลี่ (Shili Industrial Zone/十里工业园区) อำเภอหลิงซาน พนักงานของ JD Logistics กำลังขนย้ายกล่องพัสดุลิ้นจี่ที่ผ่านกระบวนการลดอุณหภูมิ (Pre-cooling) จากจุดบรรจุไปยังรถขนส่งห่วงโซ่ความเย็น บรรจุภัณฑ์สำหรับลิ้นจี่สดประกอบด้วย “ถุงเก็บความสด + ถุงน้ำแข็ง + กล่องโฟม + กล่องกระดาษแข็ง” โดยลิ้นจี่เหล่านี้จะถูกจัดส่งไปถึงมือผู้รับทั่วประเทศจีนโดยเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูง รถบรรทุกห้องเย็น

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 12:18 น. เจ้าหน้าที่ของ China Railway Express กำลังลำเลียงกล่องลิ้นจี่สดขึ้นรถไฟความเร็วสูง เที่ยวขบวน D583 ที่จะออกเดินทางจากสถานีรถไฟ Nanning East ไปยังสถานีรถไฟ Guangzhou South ซึ่งใช้เวลาขนส่งเพียง 4 ชั่วโมง ตามรายงาน ในวันดังกล่าวมีลิ้นจี่หลิงซาน น้ำหนักรวม 5 ตันที่ขนส่งด้วยรถไฟความเร็วสูงกระจายไปทั่วประเทศจีน อาทิ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครคุนหมิง นครกว่างโจว นครอู่ฮั่น นครฉางซา โดยคาดว่า ปีนี้ ลิ้นจี่หลิงซานที่ใช้การขนส่งด้วยรถไฟความเร็วสูงจะมีปริมาณมากเกือบร้อยตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปีก่อนหน้า

รู้หรือไม่… ปัจจุบัน รถไฟความเร็วสูงในเขตฯ กว่างซีจ้วงสามารถเชื่อมครบทั้ง 14 เมือง และวิ่งเชื่อมกับ 21 มณฑลทั่วประเทศจีน เป็น “วงแหวนคมนาคมด้วยรถไฟความเร็วสูง 1 – 3 – 6 ชั่วโมง” ช่วยให้การขนส่งผลไม้สดจากเขตฯ กว่างซีจ้วงสามารถวิ่งถึงสถานีปลายทางทั่วจีนได้ภายใน 1 วัน

วิธีการดังกล่าวเป็นการนำลิ้นจี่ไปแช่ในน้ำที่มีการเติม “สารชีวภาพเพื่อรักษาความสดใหม่” เคลือบผิวลิ้นจี่เพื่อยับยั้งหรือชะลอกระบวนการรวมตัวกับออกซิเจน ทำให้เปลือกลิ้นจี่มีสีสวย (ไม่ดำ) คงความสดใหม่ และรสชาติไม่เปลี่ยน สารชีวภาพดังกล่าวยังมีสารระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย (Bacteriostatic Agent) รวมถึงสาร Tea Polyphenols และกรดแอสคอร์บิค (Ascorbic Acid) หรือวิตามิน ซี ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างการมนุษย์ ถือเป็น ‘โอกาสและความหวังใหม่’ ที่หน่วยงานภาครัฐ/เอกชนไทยสามารถแสวงหาช่องทางในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านระยะทางและระยะเวลาการขนส่ง และเป็นการตอกย้ำด้านภาพลักษณ์และค่านิยมของผลไม้ไทยที่มีคุณภาพและความสดใหม่ในสายตาของผู้บริโภคชาวจีนได้ด้วย


การรักษาความสดของลิ้นจี่สด นอกจากกระบวนการลดอุณหภูมิ (Pre-cooling) ซึ่งเหมาะกับการขนส่งในระยะเวลาสั้นแล้ว หน่วยงานเกษตรและชนบทของอำเภอหลิงซานกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตรของมณฑลอันฮุยได้คิดค้นเทคนิคการถนอมความสดของลิ้นจี่แบบผสมผสานตามหลัก “ชีววิทยา+ฟิสิกส์” เพื่อ ‘ล็อก’ ความสด และยืดอายุของลิ้นจี่หลังการเก็บเกี่ยวได้นานถึง 60 วัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายได้มากยิ่งขึ้น

ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG